ผู้ให้บริการโซลูชั่นการทำฟาร์มแนวตั้ง: Skyplant มุ่งเน้นไปที่เรือนกระจก ระบบการทำฟาร์มแนวตั้ง & อุปกรณ์.
ข้อดี:
1. ผลตอบแทนสูง: โรงงานโรงงานในตู้คอนเทนเนอร์สามารถให้ผลตอบแทนสูงต่อตารางเมตร ทำให้เหมาะสำหรับการปลูกพืชที่มีมูลค่าสูง เช่น กัญชา
2. สภาพแวดล้อมที่มีการควบคุม: การใช้ภาชนะบรรจุและสภาพแวดล้อมที่มีการควบคุมช่วยให้สามารถควบคุมปัจจัยต่างๆ เช่น อุณหภูมิ แสง และความชื้นได้อย่างแม่นยำ ซึ่งสามารถนำไปสู่คุณภาพที่ดีขึ้นและความสม่ำเสมอของพืชผล
3. ความยืดหยุ่น: โรงงานในตู้คอนเทนเนอร์สามารถย้ายที่ตั้งได้ง่าย ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานชั่วคราวหรือถาวรในสถานที่ต่างๆ
4. ความสามารถในการปรับขนาด: ระบบเหล่านี้สามารถขยายหรือหดตัวได้อย่างง่ายดายเพื่อตอบสนองความต้องการด้านการผลิตที่เปลี่ยนแปลงไป
5. การควบคุมศัตรูพืชและโรค: สภาพแวดล้อมในตู้คอนเทนเนอร์สามารถออกแบบเพื่อลดความเสี่ยงของศัตรูพืชและโรค ลดความจำเป็นในการใช้ยาฆ่าแมลง และปรับปรุงคุณภาพของพืชผล
ปัจจัยที่ต้องพิจารณา:
1. แสงสว่าง: ประเภทและความเข้มของแสงสว่างที่ต้องการจะขึ้นอยู่กับพืชผลเฉพาะที่กำลังปลูก
2. การระบายอากาศ: การระบายอากาศที่เหมาะสมถือเป็นสิ่งสำคัญเพื่อรักษาสภาพการเจริญเติบโตที่เหมาะสมและป้องกันการสะสมของความร้อนและความชื้น
3. การจัดการน้ำและสารอาหาร: การจัดการน้ำและสารอาหารอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการเจริญเติบโตของพืชและลดของเสีย
4. ระบบอัตโนมัติ: ระบบอัตโนมัติสามารถช่วยลดต้นทุนแรงงานและปรับปรุงความสม่ำเสมอในการผลิต
5. ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน: การออกแบบและการดำเนินงานโรงงานโรงงานตู้คอนเทนเนอร์ในลักษณะประหยัดพลังงานสามารถช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานได้
ข้อดี
1. **สภาพแวดล้อมที่มีการควบคุม**: โรงงานในโรงงานคอนเทนเนอร์สามารถจัดเตรียมสภาพแวดล้อมการเจริญเติบโตที่มีการควบคุมอย่างสมบูรณ์ รวมถึงแสง อุณหภูมิ ความชื้น และความเข้มข้นของคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อให้มั่นใจว่ามีสภาวะที่ดีที่สุดสำหรับการเจริญเติบโตของกัญชา
2. **การอนุรักษ์ทรัพยากร**: ด้วยการควบคุมน้ำและปุ๋ยอย่างแม่นยำ และการรีไซเคิลทรัพยากรน้ำ ความต้องการน้ำจะลดลงอย่างมาก
3. **ผลผลิตที่เพิ่มขึ้น**: ด้วยการปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมและใช้เทคนิคการเพาะปลูกขั้นสูง ผลผลิตต่อหน่วยพื้นที่จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
4. **ศัตรูพืชและโรคลดลง**: เนื่องจากการควบคุมสภาพแวดล้อมการเจริญเติบโตอย่างเข้มงวด จึงสามารถลดอุบัติการณ์ของศัตรูพืชและโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5. **การผลิตต่อเนื่องตลอดทั้งปี**: การผลิตต่อเนื่องสามารถทำได้ตลอดทั้งปีโดยไม่ได้รับผลกระทบจากฤดูกาล
ปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการวางแผน
1. **กฎหมายและการปฏิบัติตามข้อกำหนด**: ขั้นตอนแรกคือตรวจสอบให้แน่ใจว่าโครงการปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับท้องถิ่น รวมถึงกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการเพาะปลูกและการขายกัญชา
2. **การเลือกสถานที่และโครงสร้าง**: เลือกสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการวางตู้คอนเทนเนอร์ โดยคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ เช่น การระบายอากาศและการระบายน้ำ ตัวภาชนะควรมีคุณสมบัติเป็นฉนวนที่ดี
3. **ระบบไฟส่องสว่าง**: เลือกไฟโรงงาน LED ที่เหมาะสมหรืออุปกรณ์ให้แสงสว่างอื่นๆ โดยอิงตามระยะต่างๆ ของการเจริญเติบโตของกัญชาเพื่อตอบสนองความต้องการด้านแสงสว่าง
4. **ระบบควบคุมสิ่งแวดล้อม**: ติดตั้งระบบควบคุมอุณหภูมิ การควบคุมความชื้น และระบบเสริม CO2 เพื่อให้มั่นใจว่าสภาพแวดล้อมภายในมีเสถียรภาพ
5. **ระบบชลประทานและการปฏิสนธิ**: ใช้วิธีการชลประทานแบบประหยัดน้ำและมีประสิทธิภาพ เช่น การให้น้ำแบบหยดหรือการปลูกหมอก และปรับสูตรสารละลายธาตุอาหารตามระยะการเจริญเติบโตของพืช
6. **การตรวจสอบและการจัดการอัตโนมัติ**: เปิดตัวเซ็นเซอร์และระบบควบคุมอัตโนมัติเพื่อตรวจสอบและปรับพารามิเตอร์แบบเรียลไทม์ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดการ
7. **การกำจัดขยะ**: วางแผนวิธีแก้ปัญหาการกำจัดขยะอย่างมีเหตุผล (เช่น ใบไม้ที่ตายแล้วและเศษปุ๋ย) เพื่อหลีกเลี่ยงมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม
โดยสรุป โรงงานโรงงานคอนเทนเนอร์มอบโซลูชันที่มีประสิทธิภาพและควบคุมได้สำหรับการเพาะปลูกกัญชา อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะดำเนินการ ปัจจัยที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจะต้องได้รับการพิจารณาอย่างเต็มที่เพื่อให้แน่ใจว่าการดำเนินโครงการจะประสบผลสำเร็จ